Fun concepts, fun gameplay. Except that after half way done, the game started to drag on and the fun gameplay became tedious and repititive that the short game time felt so long.

-----

เนื้อเรื่องเกี่ยวกับแม่มดที่อาศัยอยู่ในป่าที่ต้องทำภารกิจตามเก็บวิญญาณให้กับแพะปริศนาที่มาทวงสัญญาที่เราทำไว้

โดยภารกิจตามเก็บวิญญาณก็จะแยกย่อยออกเป็นเนื้อเรื่องเล็ก ๆ โดนใช้สไตล์การเล่าและมีข้อคิดสอนใจคล้ายนิทาน

เล่นง่ายมาก แค่เก็บของที่อยู่ตามฉากและเอามาคราฟท์เป็นไอเท็มที่ต้องใช้เอาไปทำอย่างอื่นหรือเป็นไอเท็มสำหรับเควสท์ คือเป็นเกมแนว Fetch quests น่ะแหละ

ภาพเพลินตามาก เสียดายตรงที่หลัง ๆ น่าเบื่อซ้ำเดิมมากเกินไป ต้องวกไปเวียนมาเก็บของจนเริ่มจำเจ ตัวเกมไม่ได้ยาว ตะบี้ตะบันเล่นทีเดียวจะเกิดอาการเบื่อได้ เหมาะเล่นเรื่อย ๆ ช้า ๆ มากกว่า จำเพลงประกอบไม่ได้ว่าเพราะมั้ย แต่เนื้อเรื่องของเควสท์/นิทานย่อยสนุกดี เป็นตัวชูโรงตรงนั้นแหละ

ใครจะเล่นแนะนำให้เก็บไอเท็มดะ ตุนไว้เยอะ ๆ เพราะหลัง ๆ ต้องใช้เยอะมาก จะได้ไม่ต้องวกไปวกมาหลายรอบ

A game about self-doubt, living in the shadow of someone else's and breaking free to be who you always want to be. One of the best visuals in games. But tbh, more like an experience than an actual game.

-----

ถ้าวัดคะแนนจากความบันเทิงโดยรวมให้ 8/10 แต่ถ้าเอาคะแนนวิชวลให้ 11/10 เลย!

เป็นหนึ่งในเกมที่ภาพสวยมาก อาจจะไม่ใช่นิยามกราฟิกสวยระดับค่ายใหญ่ยักษ์ แต่มีความว้าวววววมาก

เราเล่นเป็นหนุ่มนักดนตรีชื่อแฟรนซิส เวนเด็ตติ หลานชายของจอห์สัน เวนเด็ตตินักดนตรีโฟล์คชื่อ(โคตร)ดัง ใคร ๆ ก็หลั่งไหลเข้ามาที่เมืองเพื่อฟังคอนเสิร์ตของอาอยู่เสมอ และทุกคนก็ตั้งความหวังไว้ที่แฟรนซิสว่าจะเติบโตไปในเส้นทางเดียวกัน

แต่แฟรนซิสค้นพบว่าตัวตนข้างในมันไม่ใช่สายโฟล์ค!

และจู่ ๆ ก็เกิดเหตุการณ์บางอย่างที่เอื้อให้เราออกผจญภัยเพื่อตามหาสิ่งที่ตัวเองเป็นจริง ๆ

ระบบการเล่นง่ายมากกกกกกกกก ง่ายจนอย่างที่บอกว่าเหมือนประสบการณ์แบบอินเตอร์แอคทีฟมากกว่าจะเป็นเกมที่ท้าทาย วิธีเล่นแค่กดปุ่มตามเท่านั้น นอกนั้นเสพฉากและเนื้อเรื่องล้วน ๆ

วิชวลเกมนี้คือ…เหมือนเสพ LSD (ไม่เคยหรอกนะ แค่เปรียบเทียบ) เนื้อเรื่องก็กาวพอประมาณ หลุดโลกอย่างแท้จริง 55555

มีนักพากย์สองคนในเกมเราชอบผลงานด้วย คนหนึ่งคือ Lena Headey ที่เล่นเป็นเซอร์ซีใน GoT และ Mark Strong ที่เล่นเป็นเมอร์ลินใน Kingsman

แนะนำให้เล่น แค่เสพภาพก็คุ้มแล้ว

Leave the gun, take the cannoli.

-----

สั้นแต่ด้วยความที่เป็นเส้นตรงทำให้อินได้ง่าย จิตใจจดจ่อกับเรื่องราว มีแอ็คชั่นตลอด ภารกิจไม่น่าเบื่อ ไม่จำเจ แต่ด้วยความที่มันเป็นงั้น พอออกไปโลกภายนอกมันก็เลยกลวง ๆ แต่เราถูกใจตัวละครและโลกยุค 1930s มากจริง ๆ

- ไม่ใช่ open-world แต่มีโหมด free roam
- นักแสดง mocap เล่นดี สีหน้าดี บทดี คัทซีนดีเหมือนดูหนัง
- โทนสีเกมสวย
- เมือง Lost Heaven สวยมีเสน่ห์มาก องค์ประกอบอย่างรถ ป้าย รถราง ถนนหนทาง แฟชั่น ทำได้ดี
- ซาวด์เกมทำได้ดีมาก ปืนเพราะ เครื่องยนต์เพราะ วิทยุมีสองช่อง แต่ฟังเพลินเวลาขับรถไปเรื่อย ๆ มีเพลงแจ๊ซคลอ เข้าอุโมงค์สัญญาณวิทยุตกงี้
- ตัวเอกอย่างทอมมี่แองเจโลมีเสน่ห์ มีครต.
- ตัวละครบางตัวบทน้อยไปหน่อย เสียดาย
- สั้นมาก เล่นอยู่ไม่กี่วันหลังเลิกงานก็จบแล้ว
- ภารกิจเป็นเส้นตรงต่อเนื่อง บทต่อบท นอกเรื่องยากเพราะไม่ใช่เกมสไตล์นั้น (และไม่คิดทำสไตล์นั้น)
- ถึงเมืองจะมีเสน่ห์ มีผู้คน มีชีวิต แต่ว่างเปล่าในแง่ไม่ค่อยมีอะไรให้ทำ (ในโหมด free roam) แต่ใครถูกใจการขับรถเล่น เก็บของสะสม ดูวิว ชิล คงชอบ
- เนื้อเรื่องโดยรวมดีเลย ถูกใจ
- ระบบขับรถยากใช้ได้ ยังไม่ทันชินก็จบเกมแล้ว แหกโค้งง่าย รถไม่เกาะถนน อาจจะเพื่อความสมจริง/อิงต้นฉบับ
- ระบบต่อสู้ก็เล่นสนุก ชวนหัวร้อนพอได้ ขลุกขลักนิดหน่อย